ตัวอย่างกลอนดอกสร้อย
ทุกคนต่างก็เด็ดมาดมดอม ฝูงผึ้งน้อยล้อมรอบดอกขาวพรู
มะลิน้อยสัญลักษณ์ของวันแม่ คือรักแท้แทนความกตัญญู
ต้นน้อยน้อยน่ารักน่าเอ็นดู อวดดอกชูกิ่งก้านชื่นชม
มาวันนี้นำต้นลงสู่ดิน ยังไม่ชินดินใหม่อย่าขื่นขม
จงสบายกับบ้านไม่ระทม แสนสุขสมค่ำเช้าไม่ละวาง
สีขาวนวลอวลกลิ่นดอกมะลิ ยิ้มแก้มปริผูกใจไว้ไม่ยอมห่าง
ทั้งกิ่งก้านก็อ่อนโยนดั่งนวลปราง มีใครบ้างรักเจ้าเฝ้าเคลียคลอ
ถึงวันนี้เจ้ามีอายุแล้ว โอ้ดวงแก้วห้าวันเต็มพร้อมเฝ้ารอ
ดอกสีขาวโผล่แล้วน้ำตาคลอ ปลื้มแล้วหนอเห็นดอกออกเต็มตา
สำหรับเจ้าคือความรับผิดชอบ อาจารย์มอบหมายให้เฝ้ารักษา
นับแต่นี้จะดูแลข้างกายา กรรณิการ์มีชีวิตรอดสี่เดือน
เป็นเวลาหลายวันเคลื่อนเป็นเดือน คอยย้ำเตือนเจ้าไม่ลืมเลือน
ต้นสีเขียวดอกสีขาวไม่แชเชือน ส่วนกลิ่นเหมือนน้ำอบน้ำปรุงไทย
มองแต่ไกลเห็นลิบลิบเป็นช่องรู เมื่อมีหมู่ตั๊กแตนกัดกินใบ
เดินไปดูเห็นแล้วละคนใจ ปัดป้องไวไล่พวกสาละวน
แหงนมองฟ้าครึ้มฝนบนเมฆดำ นึกถึงคำแม่บอกลางบอก ฝน
กลัวมาลาจะชอกช้ำมากกำทน รำเพยพัดเราจนซัดโซเซ
ถึงวันนี้ใส่ปุ๋ยบำรุงดิน เราได้กินสารอาหารอย่างถมเถ
มีการเปลี่ยนปรับปรุงสูตรไม่จำเจ แม้แต่นกที่เร่ร่อนยังอิจฉา
เย็นวันนี้เดินมาเปิดประตู ดอกขาวพรูส่งกลิ่นหอมอบอวลมา
จึงรีบรุดเดินไปไม่รอช้า มือก็คว้าเด็ดดอกมาเชยชม
ระหว่างที่เรียนอยู่ในห้อง ใจก็จ้องมองไปไม่เอื้อนเอ่ย
เพราะดวงจิตคิดถึงไม่วางเฉย ก็ใจเอ๋ยแสนคิดถึงเจ้าดวงมาลย์
มองแต่ไกลเห็นฝูงภมรบิน มาตามกลิ่นดอกมะลิที่หอมหวาน
กลิ่นหอมกรุ่นละมุนทุกวันวาน ประดุจปราณแรกแย้มแสงสุริยา
กรรณิการ์กลีบขาวดุจดาวแจ่ม เผยกลีบแย้มโปรยกลิ่นถิ่นพฤกษา
ครั้นค่ำคืนชื่นจิตยามนิทรา ยามอุษากลีบร่วงห้วงพสุธา
มะลิซ้อนดอกกลมข่มจันทร์แจ่ม กลีบดอกแหลมไปแยกแตกสาขา
ขาวสว่างพร่างเกลื่อนกรกฎาคม เนื้อใบหนายอดแหลมแซมก้านใบ
ใบสีเขียวม้วนกลมเป็นเกลียวยาว มีสีขาวเหมือนกาวราวสายใย
พอแกะดูแล้วหนอเป็นตัวไหม ตัวเต็มวัยก่อนบินไปในนภา
ภูมิปัญญาหาแร่ธาตุบำรุงต้น เร่งสืบค้นอินเทอร์เน็ตโลกหรรษา
จึงได้สูตรอาหารรสโอชา คอยเป็นยารักษาเวลาเฉา
มาลาน้อยปลูกไว้ในกระถาง มีบางคราวปล่อยให้เจ้าต้องเหงา
เฝ้ารดน้ำพรวนดินไม่ซบเซา เพื่อทุเลาเวลาห่างกายา
กรรณิการ์ดอกขาวบริสุทธิ์ ช่างผ่องผุดอยู่กลางมวลพฤกษา
อยากจะเด็ดดอกดมเจ้างามตา แต่ต้องว่าห้ามใจไว้สวยงามตา
แสงแดดจ้าแจ่มชัดในสายตา เพียงลมหน้าและลิ่วพลิ้วไหวมา
พี่บางเบาขาวสดสะอาดตา ได้มองมาก็ชื่นระรื่นใจ
ไม่ประสงค์พะวงหาบุปผา มาเชยชื่นกระชับแนบสนิท
หมู่ภมรบินว่อนตามต้อยติ่ง หวังเป็นมิตรเชยชมดมมาลา
ผกาชื่นรื่นแล้วเช้านี้ กลีบดอกคลี่ขาวสดงดงามตา
สวยทั้งรูปทั้งกลิ่นทรงคุณค่า ล้วนจะพารักษาด้วยดวงใจ
ผกางามยามตะวันเมื่อเปลี่ยนสี ดอกตูมคลี่เบ่งบานน่าหลงใหล
กลีบเรียงตัวสวยงามทั้งนอกใน หลงอยู่ในรูปลับเจ้ามาลา
ยามฝนตกพี่ก็งดรดน้ำเจ้า มะลิเฉาถ้าน้ำนองรากเน่ารา
เอาบัตรนี้ยังแต่ต้นเห็นเต็มตา เร่งรักษาบรรเทาเจ้ากลับ
โอ้มาลีล่วงผ่านมาแรมคืน มาลาตื่นฟื้นขึ้นอย่างสดชื่น
จึงเชิดฉายเร่งประกายอย่างดาษดื่น วันวานคืนฝันร้ายกลายเป็นดี
ดอกมะลิโรยรื่นโชยกลิ่นหอม แมลงตอมดอมดมชมมาลี
ขอชีวีจงเกษมและเปรมปรีดิ์ ดั่งรพียามเช้าเฝ้าห่วงหา
มาวันนี้เกล็ดแก้วผลิดอกแล้ว สวยเพลิดแพร้วสีขาวงามจับตา
ดอกของเจ้ากระทบแสงสุริยา สุขอุราทุกคราที่เมียงมอง
มะลิน้อยขาวผ่องบริสุทธิ์ เปรียบประดุจนารีทั่วทั้งผอง
ส่งกลิ่นไกลไปทั่วถิ่นไม่เป็น ไม่เป็นรองใครในเหล่าผกา
เมื่อวันที่ฝนพรำหยาดลงดิน ใจถวิลไม่ค่อยบุหงา
เมื่อไหร่หนอจะผลิดอกเจ้ามาลา ฉันคอยท่าบุพผาผลิดอกใบ
ตื่นเช้ามาวันนี้น่าสลด ไปเจอมดมาเป็นรังทั้งนอกใน
ทั้งเกาะกลุ่มแต่กลุ่มตามก้านใบ เหตุไฉนมดน้อยมาไต่ตอม
เผยกลีบบางผ่านแสงแจ้งโฉมฉาย ขวดสีสันพรรณรายพรายแย้มหอม
อวดกลีบคอล้อลมชวนดมดอม จับถนอมน้องยาผกาแก้ว
ดินห่อหุ้มน้ำลำธารรัก ดินรักษาปกปักให้คลาดแคล้ว
ดินจะมอบคุณค่าให้เพริศแพร้ว เหมาะสมแล้วมาลาคู่กับดิน
มาลาน้อยชูโชคเขียวชอุ่ม รอน้ำชุ่มชื่นจิตเป็นอาจิน
มีความสุขทุกครั้งฝนตกริน แค่ได้กลิ่นไอฝนก็โจษจัน
งามสะพรั่งกรีดใบใหญ่กลีบดอก พี่ช่อดอกงดงามได้ตามฝัน
สีสันสดไม่ราแรงแข่งตะวัน ได้สร้างสรรค์ความเปรมปรีดิ์ให้ชีวิต
ธรรมชาติเห็นเป็นไปให้สดชื่น ความขมขื่นทิ้งจากใจหายสนิท
มะลิน้อยอ่อนช้อยพลอยให้คิด ดอกน้อยนิดแฝงพลังช่างงามจริง
มาลาบานขานรับดวงตะวัน มะลิพันธุ์สรรสร้างให้แอบอิง
กลีบดอกบางน้ำค้างหยดดังติ่ง สวยฟุ้งฟริ้งกลีบดอกมีสีขาว
มะลิงามนามเพราะเสนาะยิ่ง ถ้อยคำอิงสวยเเฉล้มดังแก้มสาว
ดอกสีขาวพรั่งพรูทรงเรียวยาว ต้นดอกราวสวยสดงดงามตา
สุพรรณิการ์ชูช่อล้อลมไหว กิ่งกวัดไกวคล้ายเล่นเต้นเริงร่า
สีเหลืองงามจำรัสตัดขอบฟ้า พร่างพราวตางามซึ้งตรึงฤทัย
มาลาน้อยชูช่อเขียวชอุ่ม ลดน้ำชุ่มชื่นจิตคิดไฉน
ไม่นานก็ส่งกลิ่นหอมมาแต่ไกล ชื่นใจเห็นเจ้าได้เบ่งบาน
หมู่ภมรไต่ตอมเจ้านักหนา กลิ่นกายาของเจ้าช่างหอมนาน
มาลาจ๋าจ้าพาใจไม่ร้าวราน ปลูกไว้ที่หลังบ้านของฉันเอง
ผลิดอกใหม่ให้ดูงามสง่า เห็นคุณค่าในตัวน่ายำเกรง
ใครไม่เห็นก็ช่างฉันเห็นเอง จะมองเพ่งแต่เจ้าทุกเช้าเย็น
งามตราตรึงซึ้งดีสีสดใส ชมชิดใกล้หลงใหลดังเฉกเช่น
สะดุดตาเมื่อใครผ่านมาเห็น นี่ก็เป็นมาลาบ้านกระจาย
หอมกลิ่นมะลิตอนรุ่งสาง ผลิตน้ำค้างแนบชิดติดกิ๊บสาย
ข่าวลมหอบหอมกลิ่นระรินราย พลิ้วไหวด้วยกลีบขาวพราวละไม
สุดหัวใจได้พบสบนวลเจ้า ทุกยามเช้าสวนขวัญอันสดใส
งามดวงดอกของเจ้าเท้าความนัย กลีบที่ไว้ซ่อนด้วยความสวยงา
เพียงได้มองแม่ยุพินชื่นอุรา แม่กานดาช่างผุดผ่องทุกครายาม
ชี้ยอดดอกเผยแย้มแข่งกันงาม โกงคอถามไถ่ทุกข์สุกดิบกัน
เสียงไก่กู่ก้องทั่วยามอรุณ ชุลมุนวุ่นวายไม่ยาวนาน
อีกต่อมาได้ยินคนขับขาน เมื่อวันวานมีการเกิดเหตุการณ์
ดอกมะลิผลิล้วนถ้วนสีขาว เรื่องราวซับซ้อนกล่าวคำขาน
กี่เดือนปีสีกลิ่นเดิมให้พ้องพาน จะกี่การก็จะขาวให้ดอมดม
ต่างกับคนซับซ้อนซ่อนเล่ห์ลิ้น มักเปลี่ยนสีเปลี่ยนกลิ่นมีผสม
หนึ่งเหตุการณ์นั้นหลากรสคารม เพียงเหตุเดียวเพื่อสมหทัยปอ
การคบหาสมาคมจึงตรอมจิต มีหน้ากากปกปิดบังเนื้อหนอง
ซ้อนหลายชั้นกันธาตุแท้แพ้ละออง ในที่สุดหล่นมากองหน้ากากพัง
สิ่งที่เห็นเป็นเรื่องควรพินิจ ว่าความคิดเป็นสิ่งไม่ยั่งยืน
ความรู้สึกไม่ยั่งยืนไม่จีรัง รักชอบชังในชีพเดียว
หอมจริงหอมจังเขากล่าวบอก ได้ดมดอกมะลิขาวใบสีเขียว
กลีบดอกบางสีขาวมีใบเรียว ไม่เปล่าเปลี่ยวเพียงมองเจ้าสุขฤทัย
เจ้างามเด่นยามค่ำคืนมิรู้คลาย แม่เช้าสายเจ้ายังงามบานชื่นใจ
ดอกเดจ้าผลิขาวนวลชวนหลงใหล ถ้าใครได้เมียงมองน่าชื่นชม
กลีบดอกขาวค่อยค่อยเผยอแย้ม คอยแต่งแต้มสีสันหน้าดอมดม
ใครได้แวะเวียนมาก็ชื่นชม แสนสุขสมชมชูช้อนมะลิน้อย
อรุณเรืองเรือระยับรับวันใหม่ แว่วเสียงไก่ทักเจ้าเลื่อยล่องลอย
มะลิแย้มยิ้มอย่างพริ้มพลอย หยอกเย้าคอยยามอุษาของภากร
ดอกผกาดอกน้อยกระจ้อยริด ดอกน้อยนิดขาวผ่องพวงขจร
ชูชาติน้อยอวดโฉมอรชร ทั้งแก่อ่อนเรียงรายน่าชมชอม
ดอกมะลิโรยใส่ไว้ในขันธ์ น้ำอบนั้นหยดใส่จะได้หอม
กลีบดอกขาวเด็กใส่อย่าได้ออม พวงพะยอมเจ้าคอยปลอบประโลม
กลีบหอมกรุ่นอุ่นอวลนวลมะลิ เกมผีส่งกลิ่นประทินโฉม
สีนวลขาวพราวไสวใคร่เล้าโลม ขอแนวโน้มแน่วไว้ด้วยใจจริง
พี่ปลูกเจ้าหวังดูแลสนิทใกล้ ความอ่อนไหวซ่อนอยู่คล้ายผู้หญิง
หากมีหมู่ภมรซ่อนแอบอิง จะท้วงติงชิงเจ้ามาเคล้าคลอ
คิดถึงน้องคนดีมะลิกา เมื่อเวลากลับบ้านแม่ลออ
สามสี่วันพี่ไม่อยู่น้องเฝ้ารอ คอเอียงคอรอน้ำให้รดราก
มะลิทั้งหลายย่อมขาวราวหิมะ ใครที่จะหวังเด็ดอย่างมายมาก
คิดจะพรากดอกจากใบต้นราก ก็มิอาจจะพลาดเจ้ามาลา
มะลิหอมย้อมกลิ่นให้เยือกเย็น ความสวยงามที่เห็นนั้นทรงค่า
นำดอกไม้ถวายพระศาสดา ด้วยกายามาลาผู้นาบุญ
มะลิงามยามพิศจิตแจ่มใส กลิ่นหอมไกลให้ชื่นไออุ่น
เป็นดอกไม้ต่อเติมเสริมค้ำจุน ยกเปรียบคุณมารดาบูชาการ
มะลิซ้อนซ่อนกลิ่นที่ช้ำร่วง รักที่หวงหวงห่วงดั่งใจปราณ
กลับลาลับร่วงหล่นจากกิ่งก้าน ใจร้าวรานเศร้าอุรามาลาจาก
มะลิพี่โตเต็มวัยเกินกระถาง ไม่เมินหมางย้ายกระถางสบายราก
กระถางใหม่กว้างขวางสบายมาก ต้นและลากเลื้อยไปมารอบกระถาง
เดือนสิงหาคมหน้าฝนแสนชุ่มฉ่ำ ตกกระหน่ำทุกวันไม่เหินห่าง
มองออกไปเห็นสายฝนแสนอ้างว้าง พื้นที่กว้างชุ่มแฉะสายน้ำไหล
ฝนหนอฝนตกมาได้ทุกวัน ทำให้ฉันเปียกปอนจนเป็นไข้
แต่อย่างไรก็มาเรียนจนได้ ฝนแค่ไหนก็ไม่ทำให้ฉันหวั่น
ตื่นเช้ามาเดินออกไปดูมาลา โอ้น้องจ๋าฝนตกหนักเซาะรากกัน
พอนั่งดูขอให้เป็นแค่ความฝัน มาลาฉันท์รากขาวโผล่พ้นดิน
ดอกเก่าร่วงดอกใหม่โผล่กิ่งก้านใบ เป็นสายใยวนเวียนเปลี่ยนเคยชิน
ดอกสีขาวบานสะพรั่งหน้ายลยิน ฟังเสียงพิณคละเคล้าเฝ้าเสียงเพลง
เย็นวันนี้ซักผ้าใกล้ใกล้เจ้า คอยนั่งเฝ้าเปิดเพลงเสียงบรรเลง
โอ้ละโหโอ้ละเหสุขครื้นเครง มีทั้งเพลงสนุกเคล้าเฮฮา
สองสามวันมานี้เหินห่างเจ้า อย่าได้เศร้าเลยนะเจ้ามาลา
ส่วนตัวพี่คิดถึงเฝ้าห่วงหา ไม่ค่อยมีเวลามาเชยชม
มะลิขาวมีสีอื่นแปลกปลอมมา ชื่นอุราตื่นตาไม่ขื่นขม
เราก็พร้อมที่จะมายืนชม แสนสุขสมสีอื่นแซมดอกใบ
ดอกมะลิน้อยน้อยคอยแสงจ้า คืนนภามืดไปทั่วมัวทันใด
แสงตะวันจะมาอีกเมื่อไหร่ แสนห่วงใยมาลาน่าอดสู
ฝนหนอฝนมาวันนี้ยังไหลริน พัดไสวใบปลิวละลิ่วลู่
มะลิน้อยมองไปช่างหดหู่ เสียงลมอู้อื้ออึงรำพึงหา
แหงนขึ้นไปในนภาราตรีกว้าง แฟนอ้างว้างหนาวเหน็บเจ็บอุรา
เมื่อไหร่หนอมะลิน้อยที่คอยท่า พี่ดอกมาให้พี่ได้เชยชม
เช้าวันนี้ตื่นมารับวันใหม่ แสนสุขใจแสงตะวันอันสุขสม
มะลิน้อยรับแสงรับแรงลม วารีพรมพร่างพร้อยให้หายเฉา
หยาดน้ำน้อยหยดเยาะจากแผ่นฟ้า โรยร่วงมาหยาดย้อยสู่ก้านเถาว์
ดอกดวงเด่นด้าวของตัวเรา คงหง่อยเหงาหง่างเหงงวังเวง
แสงแดดเรือทอแสงสีนวลผ่อง แสงสาดส่องม่านนภาเปิดฟ้าใส
ต้นมะลิดอกน้อยกางกิ่งใบ ชูดอกใหม่รีบเร่งใกล้เบ่งบาน
ดอกดวงมาลย์บานเบ่งอวดดอกอ้าง ชูกิ่งก้านออกข้างอย่างอาจหาญ
ดอกน้อยน้อยบานเบ่งอย่างตระการ โอ้ดวงมาลย์ดูเล่นเป็นแน่จริง
ใบสีเขียวเริ่มเหี่ยวเหลียวแลเห็น ทุกเช้าเย็นรดน้ำเป็นห่วงยิ่ง
เจ้าเปรียบเหมือนทุกอย่างและทุกสิ่ง ร่วงหล่นออกจากกิ่งเขียวขจี
สายลมโบกพัดติ้วปลิวพลิ้วไสว ทำให้ใจรู้สึกสุขทวี
มองออกไปเห็นดอกขาวชื่นฤดี สุขชีวีได้เห็นมาลาบาน
แสงอรุณคุณคิดก่อนฟ้าสาง ให้สว่างกระจ่างแจ้งเมื่อถึงกาล
เจ้ามาลายิ้มรับตะวันบาน อย่างอาจหาญชูช่อแสนระรื่น
สายฝนโปรยโรยรินแสนชุ่มฉ่ำ ฝนกระหน่ำข้ามวันยันค่ำคืน
ฟังเสียงฝนหล่นหลังคายามดึกดื่น ให้ข่มขืนทุกเวลามาลาเเดง
เผยกลีบบานผ่านแสงแจ้งโฉมฉาย อวดสีสันพรรณรายพรายแย้มแสง
ปวดกลีบคลอล้อลมพวกแมลง ภมรภู่หมู่แสดงแฝงกายา
เจ้าเชิดฉายหว่านเสน่ห์เสน่ห์รัก โรคประจักษ์ว่าเจ้างามหนักหนา
เพียงสายพันธุ์นั้นที่ถูกตีตรา ต้องเกิดมาเพื่อแทนกตัญญู
ฝากดอกไม้จากห้วงของดวงใจ แทนรักอันยิ่งใหญ่ที่เชิดชู
ให้หอมร่วงโชติช่วงดอกขาวพรู ให้พวกหมู่ภมรไต่ตอมชม
มะลิน้อยผ่อนพักลงสักนิด อย่าได้คิดอาลัยให้ขื่นขม
ฝากฝนโปรยละอองดับหมองตรม ฝากสายลมห่มรักมาทักทาย
แตกยอดอ่อนขึ้นใหม่ดูซ่อนรู้ เมื่อแลดูเขียวสดงดงามเฉิดฉาย
ประโลมกอดดูแลมิวางวาย จักรเช้าสายเจ้าคือหนึ่งที่ตรึงใจ
มะลิน้อยเรียงร้อยสร้อยความรัก ให้ประจักษ์ทุกเขตอันกว้างใหญ่
เป็นดั่งรักของแม่ที่มอบให้ ลูกนั้นไว้เป็นแสงคอยส่องทาง
มาวันนี้ฝันของพี่เป็นจริงแล้ว โอ้ดวงแก้วขึ้นดอกเต็มกระถาง
ออกดอกคู่ให้พี่ชื่นมีเว้นวาง ดอกตูมบ้างบานบ้างชื่นอุรา
ฝนได้พรำรดเจ้ายามค่ำรุ่ง ช่วยผดุงเป็นอาหารผ่านกายา
ให้ร่างเจ้าชุ่มฉ่ำในทุกครา ให้ผกาได้เร่งผลิดอกใบ
มาวันนี้ใจเปลี่ยวเหงาและเศร้าซึม ท้องฟ้าครึ้มฝนโปรยโรยสดใส
แต่มาลาช่างดูช้ำชอกใบ มีเพียงก้านที่เหลือไว้ให้พบพาน
กลีบบางช้ำกล้ำกลืนทุกข์อุรา วาสนาเพียงได้พบไม่เนิ่นนาน
ขอให้เจ้าได้ปุ๋ยมาใส่ต้น ค่อยผ่อนปรนรักษาให้เบ่งบาน
ดอกมะลิตรอมตรมข่มใจนัก ยามมีรักปักดวงใจให้คำหวาน
พอเขาทิ้งก็หล่นใจให้ซมซาน ตัดโรยราเมื่อน้ำตาผ่ากลางใจ
มาวันนี้ยอดอ่อนเริ่มผันเปลี่ยน ได้หมุนเวียนแปลกตาพาสดใส
มีดอกตูมสีขาวเล็กที่กิ่งใบ แล้วเมื่อไหร่เจ้าจะบานรับอรุณ
รอเห็นดอกสีขาวอรชร หมู่ภมรคอยบินว่อนอย่างอบอุ่น
แต่งกิ่งก้านพรวนดินช่วยค้ำจุน เจ้าละมุนอุ่นอ่อนน้องแก้วพี่
เสียงลำเพยอ่อนโยนปลอบต้นไม้ อีกน้ำใจของสายฝนชื่นฤดี
ให้ดอกขาวชุ่มฉ่ำเป็นสุขี แสนเปรมปรีดิ์ชุ่มฉ่ำในกายา
เป็นดั่งเพื่อนยามเหงาคลายอารมณ์ แสนสุขสมไม่ห่างหายเจ้ามาลา
ได้เห็นเจ้าบานแย้มชื่นอุรา ลมจากฟ้าพัดโบกหายโศกเศร้า
มาวันนี้ความจริงได้มาเยือน คอยย้ำเตือนโรยรามาลาเฉา
ดอกของเจ้าร่วงหล่นปนความเหงา แล้วเมื่อไหร่สองเราจะพบเจอ
มะลิน้อยผ่อนพักลงสักนิด อย่าได้คิดอาลัยเฝ้าละเมอ
อีกไม่นานสองเราคงได้เจอ เหล้าเพื่อนเกลอห่างกันไม่เนิ่นนาน
เร่งใส่ปุ๋ยพรวนดินให้ออกดอก อย่าได้ชอกช้ำตรมละกำปราณ
จะดูแลใกล้ชิดอยู่ทุกกาล อีกไม่นานตุ้มดอกคงโผล่ผลิ
แสงสาดส่องวันนี้เห็นขาวราง ไม่เว้นวางเดินดูยิ้มแก้มปริ
ดอกสีขาวโผล่พ้นเร่งบานผลิ อีกสักนิดคงบานแย้มให้เชยชม
กลีบสีขาวพ้นช่อลออนัก เปรียบดังรักแรกแย้มมิข่มขื่น
กลิ่นหอมนั้นคงหวานชื่นภิรมย์ คงสุขสมเมื่อแนบชิดแอบอิงกาย
โอ้อวดโฉมลมไล้ไม่อายลม แผ่เกสรเชยชมเกินบรรยาย
เปรียบผู้หญิงโฉมงามมากมาย ดังสมหมายมาลาโดดเด่น
มาวันนี้ยิ่งเห็นเด่นชัดขึ้น รวยระรื่นชูช่อไร้ซ่อนเร้น
เมื่อเพียงมองพาใจให้ฉันเย็น ไม่ลำเค็ญดูแลชื่นอุรา
แสงอาทิตย์เรืองเรือรับวันใหม่ กิ่งก้านใบสดใสเจ้ามาลา
รอเห็นดอกสีขาวอยู่ทุกครา รีบรีบออกดอกมาให้เชยชม
ส่วนตัวนี้ไม่ประสงค์บุปผาอื่น มาเชยชื่นให้มาลีเจ้าขื่นข่ม
มิเหินห่างเฝ้ามองอย่างชื่นชม สุขอารมณ์เจ้ามาลีคลี่ผลิบาน
ดอกสีขาวพร่างพราวที่พรั่งพรู โอ้โฉมตรูดูชื่นอย่างอาจหาญ
เปรียบนักสู้ในสนามก็ไม่ปราณ เร่งบานนานอย่าเร่งร่วงลงห้วงดิน
ยามราตรีหนาวย่ำเมื่อค่ำคืน กลิ่นระรวยรื่นโชยมาพาถวิล
กลิ่นของเจ้าหอมเหลือเกินแม่ยุพิน อย่าหมดสิ้นโรยราจากข้าเลย
แสงสว่างส่องสกาวที่พร่างพราว พรมให้กรีดสีขาวดูหน้าเชย
เหล่าภมรก็บินว่อนอยู่เช่นเคย แต่มาลาก็เฉยไม่เอียงอาย
ถึงเวลามาลีที่โรยร่วง พี่พร้อมโปรยโรยร่างร่วงกระจาย
แต่ก่อนเคยชูช่อมิวางวาย บัดนี้กลายมาแห้งเหี่ยวไร้เรี่ยวแรง
เติมน้ำพรมอุ่นใจให้กับเจ้า ผ่านสายใยของเราไม่เปลี่ยนแปลง
คอยพัดวีปัดป้องพวกแมลง ให้แก้มแดงผ่อนพักหลับกลางใจ
แม้นวันนี้ฟ้าฝนช่างตกหนัก จะอีกสักเท่าไหร่ไม่หวั่นไหว
มาลาพี่ก็เริ่มบานตระการไกล ชื่นฤทัยเมื่อแลเห็นดั่งดวงดาว
ดอกสีขาวอวบอิ่มด้วยกลีบหอม พวงพยอมแรกแย้มแต้มไว้สาว
ผิวพรรณเปล่งปลั่งงามสกาว ไม่กี่คราวมาลาคงไร้ความงาม
ทุ่งดอกน้อยสกาวขาวพร่างพรู อวดดอกชูดอกสง่าทุกครายาม
ไม่เอียงอายใครมองมาก็ตาม เพราะความงามทำให้เด่นเป็นสง่า
กาลเวลาผันเปลี่ยนเคลื่อนผ่านไป เหตุไฉนมาลีเศร้าอุรา
ยามห่างไกลใจฉันเฝ้าห่วงหา แล้วใครนะจะมารดน้ำเจ้า
ดอกมาลีสวยงามยามชูช่อ ขาวลออสวยสดมิหดเฉา
ขึ้นดอกบานแย้มงามในรุ่งเช้า พร้อมกับเขาละอองฝนพรมมาลา
งามแพรวพรรณบุปผาสีขาวนี้ ชื่นฤดีเหมือนหมายมาดปรารถนา
ยามลมโชยกลิ่นหอมไม่คลายคลา ชื่นอุราพาใจให้สดใส
ยอดสีเขียวขจีที่พี่เห็น ทุกเช้าเย็นสวยสดงามวิไล
ออกดอกไม้บานเบ่งชื่นฤทัย เห็นเมื่อไหร่พาใจชื่นฤดี
แหงนขึ้นไปบนนภาที่กว้างใหญ่ เศร้าฤทัยหม่นหมองตรมชีวี
ใจของพี่เฝ้าคิดถึงเจ้ามาลี ขอเพียงมีเจ้าเคียงกายตลอดไป
แสงจันทร์ส่องในยามค่ำราตรี สุขชีวีมีมาลาเป็นคู่ใจ
เพียงเมียงมองอุราก็ผ่องใส ดวงฤทัยบานเบ่งเต็มอุรา
กลีบสีขาวเรื่องปลิวพลิ้วตามลม สุดเศร้าตรมคิดถึงเจ้ามาลา
ความงามหนอของเจ้ามินำพา แม่เจ้ามาร่วงโรยราพาจากกัน
ช่วงนี้งานมีมากหลากหลายชิ้น แม่ยุพินอย่าหมองพานแข่งขัน
เจ้าจงเร่งผลิดอกแข่งตะวัน เป็นดั่งฝันดอกขาวเจ้าเบ่งบาน
ถึงครานี้ตุ้มดอกเขียวก่อนดอกขาว ก็แวววาวระยับดั่งขับขาน
อีกไม่นานเจ้าคงได้เบ่งบาน ภาพสาวหวานนวลลออของพี่ยา
ต้นพุ่มเขียวดอกสีขาวสกาวแสง เจ้าแจกแจงดอกน้อยใหญ่แตกสาขา
ทั้งกิ่งก้านแผ่ผยองเจ้ากานดา มองแล้วพาดวงใจให้สุขสันต์
อวดอ้าโฉมงดงามตลอดกาล คอยเบ่งบานรับลมชมตะวัน
มีดอกหนึ่งร่วงหล่นลงสู่โคนต้น ส่งกลิ่นจนหมดแรงให้แข่งขัน
ลาแล้วกิ่งก้านที่เคยอาศัยกัน ร่วมบากบั่นเปลี่ยนให้แปรผัน
ขอฝากดอกที่ยังอยู่คอยเติมฝัน ให้เจ้านั้นบานเบ่งทั่วสาคร
ดอกมะลิกลิ่นหอมพร้อมบริสุทธิ์ กลีบขาวดุจสำลีมีเกสร
กลีบเบาบางงดงามอรชร แม้ภมรยังหลงอนงค์นวล
ยามแรกแย้มกลิ่นกรุ่นครุ่นหลงใหล ล้วนแฝงไว้ด้วยรักที่หอมหวน
หาผกาลาพี่คงรัญจวน มีใครคอยเย้ายวนเหมือนดวงมาลย์
แสงแรงเยือนผืนนภาล้อลมไหว สมฤทัยมาลานั้นเบ่งบาน
เสียงไก่กู่ก้องกล้ายามวันวาน อลม่านวุ่นวายไม่ยาวนาน
อรุณเรืองระยับรับวันใหม่ มาลาไซร้หมดสิ้นซึ่งกลิ่นหวาน
ล้วนเหี่ยวเฉาไม่สดชื่นไม่เบ่งบาน เมื่อเวลาลับผ่านเนิ่นนานไป
มะลิแห้งดอกนี้ต้องช้ำหนัก เมื่อคนรักของเขาต้องผลักไส
น้ำตาน้องน้องแก้มอาบกิ่งใบ เพราะน้ำคำล่อลวงใจดั่งชายจร
อาทิตย์เรืองเรื่อเปลี่ยนวันใหม่ กิ่งก้านใบสดใสนวลสมร
รอเห็นดอกสีขาวอรชร หมู่ภมรค่อยบินว่อนอยากเชยชม
มะลิน้อยผ่อนพักลงสักนิด อย่าได้คิดอะไรให้ขื่นขม
ตากฝนโปรยโรยละอองดับหมองตรม ฝากสายลมห่มรักมาทักทาย
แตกยอดอ่อนขึ้นใบดูซ่อนรู้ เมื่อแลดูเขียวสดงามเฉิดฉาย
ประโลมกอดดูแลมิวางวาย จักเช้าสายเจ้าคือหนึ่งที่ตรึงใ
มะลิหอมน้อมวางข้างข้างตัก ชโลมรักบริสุทธิ์ผุดผ่องใส
แทนทุกถ้อยทุกคำจากดวงใจ เป็นมาลัยกราบแม่น้อมวันทา
เจ้าบานแล้วมะลิทรามสมร หมู่ภมรบินตอมวนไปมา
เหมือนแรกแย้มวัยสาวของน้องยา เจ้ามาลากลิ่นฟุ้งรุ่งอรุณ
แย้มกลีบบานตระการยามรุ่งหล้า แสนโสภาผุดผ่องให้ค้ำจุน
ครั้นลมล่องต้องลู่คู่ละมุน ลมพัดฝุ่นอรชรอ่อนทรวดทรง
เคยกลีบกรุ่นละมุนมานแรกบานแย้ม เกสรแซมชูชันพลันเสริมส่ง
ปรารถนาเพื่อพินิจจิตจำนง แล้วลุ่มหลงเด็ดดอมหอมตรึงตรา
ดอกมะลิดอกน้อยค่อยค่อยคลี่ ดอกขาวนี้บานเบ่งในหมู่พฤกษา
ขาวสว่างกระจ่างช่อมาลา โอ้กายาของเจ้าช่างงดงาม
เพียงได้มองแม่ยุพินฉ่ำอุรา โอ้การดาช่างผุดผ่องทุกครายาม
ชี้ยอดดอกเผยอแย้มแข่งกันงาม โกงคอถามไถ่ทุกข์สุขดิบกัน
หยาดน้ำค้างบนยอดเขียวขจี เจ้ามาลีชุ่มฉ่ำอย่างสุขสันต์
เมื่ออาทิตย์ขึ้นมาน้ำค้างนั้น ก็เร็วพลันเหือดแห้งอย่างรวดเร็ว
ถึงยามนี้แสงแดดจ้าส่องสว่าง ให้เหินห่างอ้างว้างความฉ่ำเย็น
เมื่อมีใครได้ผ่านเดินมาเห็น อย่างที่เป็นก็เอ่ยชมช่อมาลี
ดอกจ้าผลิตบานเบ่งเป็นสีขาว ให้สกาวสุขสมผ่องฤดี
ดูดวงแก้วอารมณ์สุขอย่างเปรมปรีดิ์ ช่อมาลีออกดอกนานให้ยืนยาว
เจ้าโตไวเป็นสาววัยแรกแย้ม คอยแต่งแต้มสีขาวพราวสกาว
เมื่อดอกขาวสะท้อนแสงให้แวววาว กลีบดอกยาวซ้อนกันเป็นชั้นเชิง
รำเพยพัดซัดจนเจ้าโซเซ ดูเหยเกเหน็ดเหนื่อยไม่รื่นเริง
มองมาลีในใจเหมือนสุมเพลิง จะแต่งเติมให้เจ้าคืนกลับมา
จะรดน้ำพรวนดินให้ชุ่มฉ่ำ ฝนกระหน่ำซ้ำเติมช่อมาลา
น้ำหยาดหยดลงมาจากบนฟ้า ไม่มาลาเจ้าสุขสำราญใจ
ราตรีกาลผ่านพ้นคืนวันแรม มาลีคลี่ผลิแย้มพาสดใส
เสียงแรกเยือนผืนนภาล้อลมไหว สมฤทัยมาลานั้นเบ่งบาน
เสียงไก่กูก้องกล้ายามอรุณ ชุลมุนวุ่นไปในนภากาล
ยินเสียงดังแว่วมาเพลงขับขาน ให้วันวานมีสุขช่อมาลี
บานสะพรั่งดวงดาวประดับต้น น้ำค้างยลรินรดให้สุขี
อ้วนกลิ่นคราคราวสุขฤดี แสนเปรมปรีดิ์ชุ่มฉ่ำให้มาลา
บริสุทธิ์เลอค่าล้นดอกมะลิ เจ้าผลิบานเบ่งยามอุษา
พรายเพชรน้ำค้างแก้วแห้งเหือดลา ให้นำพาก้านใบแข่งตะวัน
สุริยันจันทราลับลาเลื่อน แสงแดดเคลื่อนเลื่อนลอยคอยความฝัน
จงหลับตาพากายได้ผ่อนกัน รีบเร็วพลันเถิดหนาแม่บุหงา
คราวลืมตาตื่นด้วยความยินดี มองมาลีบานเบ่งในแดนพฤกษา
พี่น้อยพรั่งพร้อยคอยนภา ถึงเวลาต้องหลับพักกายา
ดอกน้อยน้อยดังล่องลอยให้คอยหา งดงามตาพสุธาพร่างพรายมา
ดอกมะลิอุ่นด้วยไอไม่เย็นชา เพราะน้องยาผลิแย้มออกพร้อมเพียง
สีขาวสดบริสุทธิ์ทั่วทั้งกาย ยิ่งเพริศพรายรายล้อมด้วยคู่เคียง
เจ้าบุหงาเบ่งบานอย่างหมุนเวียน นับหนึ่งสองมาเรียงเคียงคู่กาย
ยืนเคียงต้นไร้หนุ่มมากุมเกี่ยว ใบแห้งเหี่ยวกล้ำกลืนอยู่เดียวดาย
แม้นภมรบินผ่านยามเช้าสาย ไม่ทักทายมวลผกาอย่างเช่นเคย
ยังโชคดีที่ดอกหนึ่งขึ้นมาแทน ไม่คลอนแคลนแต่กลับยังเปิดเผย
อวดอ้าโฉมไม่อายเจ้ารำเพย ไฉนเลยเจ้าถึงแกร่งกว่าดังชาย
แม้นเกิดใหม่ขอให้สมภิรมย์รัก มีคู่พักเคียงกายโศกเศร้าหาย
ขอจงโปรดหลับให้ใจสบาย มิห่างหายคอยเฝ้าเคล้าเคลียคลอ
เกิดมาแล้วอยู่นานบานระรื่น ขอชมชื่นนงเยาว์นวลลออ
สมกับวันเวลาที่เฝ้ารอ สุขใจหนอขอเจ้าให้พักพิง
มะลิวัลย์ดอกนี้คือน้องฉัน ที่ฉันนั้นเรียกไว้ด้วยใจจริง
เมื่อเติบใหญ่ให้ฉันได้พักพิง จากทุกสิ่งนานาที่มอบให้
ดอกมะลิดอกนี้คือความหวัง พ่อแม่สั่งให้ลูกอดทนไว้
ให้กลิ่นหอมของมะลิพาเดินไป สู่เป้าหมายของเราเข้าทุกวัน
ต้องขอโทษที่ลืมรดน้ำ ป้อนคำหวานหลากกคำแล้วสุขสันต์
ไม่ทอดทิ้งยังรับแสงผูกพัน เพียงแต่จากนี้นั้นอาจหนักเกิน
ขอให้เจ้าเป็นกำลังให้พี่ด้วย กลิ่นเจ้าช่วยหายเหนื่อยให้เพลิดเพลิน
เป็นแรงใจที่พาให้ก้าวเดิน แม้นเผชิญเรื่องร้ายกลับกลายดี
เป็นวันที่สุดที่สุดแล้วเช้านี้ ผกาคลี่ดอกงามตามกลิ่นสี
อวดอ้าโฉมพร่างพราวกลางและดี ถึงจะออกดอกคลี่ก็ตามแต่
บานสง่ากลีบขาวราวปุยเมฆ ช่างสรรเสกความงามไม่ท้อแท้
ความดีเจ้าประดุจนั้นซึ่งแม่ คอยดูแลลูกยาแต่ยังเยาว์
ไม่มีเรียนวันนี้ทั้งเช้าสาย สุขสบายกายา แต่เงียบเหงา
ยังโชคดีมีมาลาคอยนั่งเฝ้า ส่งกลิ่นเย้ายวนหยอกให้ลุ่มหลง
ใช่แต่พี่ที่หลงอนงค์นวล ยังรัญจวนถึงภมรอ้อนพะวง
แต่ว่ารักของพี่มีมั่นคง ไม่ประสงค์จะแบ่งใจบุปผาอื่น
ร่วงโรยวันผันคืนมิฟื้นกลับ ได้ลาลับแล้วนะช่อเคยชื่น
พร้อมปลิดตนหล่นร่วงสู่ห้วงพื้น ช้ำทนฝืนล้างลาพาจากโลก
ใหม่ขอให้สมภิรมย์รัก มีคู่พักเคียงกายหายโศกเศร้า
ปลอดซึ่งภัยที่เกิดอยู่บนโลก ขอจงโปรดรับให้ใจสบาย
อวดอ้าโฉมไม่อายเจ้ารำเพย ฉันไหมเลยเจ้าหญิงแกร่งกล้าดังชาย
นี่หรือเป็นดอกเพศผู้มิเอียงอาย แอบอิงกายภมรบินอยู่ว่องวน
รดน้ำไปใจอาวรณ์ถึงน้องรัก เคยฟูมฟักไออุ่นหน้ามน
อีกท้องฟ้ามืดครึ้มยามฝน ดอกบุหงาพี่จนแหลกเร็วพลัน
แม้นวันนี้เจ้าเฉาเหมือนลาจาก ต้องพลัดพรากลาไปห่างไกลกัน
ฉันขอบคุณที่มาสร้างสีสัน ให้พี่นั้นมีเพื่อนลืมเลือนทุกข์
อยู่กับต้นให้นานหน่อยได้ไหม รับอุ่นไอครั้งสุดท้ายได้เป็นสุข
ก่อนเจ้านั้นจะล้มไม่ได้ลุก ต้นของเจ้าคงจุกช้ำอุรา
เห็นดอกเจ้าแล้วก็คิดถึงแม่ ยามท้อแท้มีแม่เฝ้าห่วงหา
คอยเฝ้าถามสุขทุกข์ให้คลายคลา ให้ลูกยาสุขกายสบายใจ
กำลังใจที่แสนจะพิเศษ ในดวงเนตรแม่มองไม่ห่างไกล
แม่นว่าเจ้านั้นหนาจะเติบใหญ่ แต่ในใจเจ้าคือเด็กอยู่ร่ำไป
โอ้ก็วันนี้พี่น้ำต้องกลับบ้าน ใจซมซานห่วงเจ้าเฝ้าหลงใหล
พี่กลับไปไม่กี่วันหรอกดวงใจ ถ้าอยากได้อาลัยใคร่ตรอมตรม
เพราะงานด่วนงานเร่งให้รีบกลับ เจ้าจงหลับเอนกายฟ้าหุ้มห่ม
จงยิ้มแย้มอย่ามองช้ำหรือขื่นขม ดวงกมลพี่นี้เฝ้ห่วงหา
ช่อบุหงาส่งกลิ่นหอมยวนยั่ว แต่เช้ามัวงดงามเป็นนักหนา
อีกเเสงเเดดโอบอ้อมล้อมนภา ภมรภู่หมายตาเจ้าดวงมาลย์
อยากนบชิดเคียงกายได้เสพสม ชื่นภิรมย์ป้อนรักปักคำหวาน
รสชาติเจ้าหวานยิ่งกว่าน้ำตาล แม่มดผ่านยังต้องแวะมาเชยชม
ฝนตกรินกลิ่นดินครุ่นหลงใหล มาลาไซร้บอบช้ำจากแรงลม
ทั้งกลีบขาวที่งดงามแลพร่างพรม ใยหมองตรมชอกช้ำกล้ำอุรา
ฝากถึงแสงสุรีย์โปรดพัดผ่าน ให้เจ้าสุขสําราญเป็นหนักหนา
ขอให้กลีบหายช้ำอย่าโรยรา แม่ผกาจงอยู่คู่กับต้น
คงคิดถึงเคียงคู่แล้วใช่ไหม เจ้าจึงได้เปลี่ยนสีเฝ้าระคน
คอยเร่งวันผันคืนให้ผ่านพ้น ใยใจเจ้าร้อนรนเป็นเช่นนี้
ได้แต่เพียงมองคู่เคียงที่ล่วงก่อน ใจอาวรณ์ด้วยรักปักฤดี
ให้เจ้านั้นได้ร่วงลงตรงนี้ ข้างข้างกายคนที่เจ้าฝันไฝ่
ออกดอกใหม่ในวันนี้เป็นดอกคู่ คอยมองดูเหมือนชายหญิงพักพิงใจ
ได้ร่วมเรียงเคียงกายอยู่ชิดใกล้ ทุกสิ่งไซร้ในโลกย่อมอิจฉา
เห็นแล้วพี่ก็คิดถึงซึ่งคนรัก ในดวงพักตร์ที่ลอยคล้อยจันทรา
ฝากเมฆฝนที่ล่องลอยในนภา ให้นำพาความรักที่ฝากไป
คิดถึงเจ้าอยู่ใกล้มิห่างหาย ทั้งเช้าสายอยู่ข้างกายให้หลงใหล
หากมีเธอต้องมีฉันอยู่ร่ำไป ดวงฤทัยเราสองร่วมเคียงคู่
ล้วนคะนึงคิดถึงพะวงหา พ่อแก้วตาพาใจมิอดสู
เพียงคิดเห็นดวงหน้าพ่อยอดชู ใจพองฟูตลอดทุกวันเอย
ผู้ประพันธ์
ปรารถนา จำปา
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น